วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พระเจ้าอุ่ทอง

สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี สำหรับความหมายอื่น ดูที่ พระเจ้าอู่ทอง สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ราชวงศ์ ราชวงศ์อู่ทอง ครองราชย์ พ.ศ. 1893 ระยะครองราชย์ 19 ปี รัชกาลก่อนหน้า พระเจ้าบรมราชา (อาณาจักรละโว้ ราชวงศ์สายน้ำผึ้ง) รัชกาลถัดไป สมเด็จพระราเมศวร พระพุทธปฏิมาประจำรัชกาล พระพุทธรูปปางประทานเอหิภิกขุ ณ หอราชกรมานุสรณ์ ข้อมูลส่วนพระองค์ สวรรคต พ.ศ. 1912 พระราชชนก มีหลายตำนาน พระราชชนนี มีหลายตำนาน พระมเหสี ไม่ปรากฏพระนาม (พระกนิษฐาในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1) พระราชโอรส/ธิดา - สมเด็จพระราเมศวร ด • พ • ก สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ พระเจ้าอู่ทอง ทรงเป็นพระปฐมบรมกษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 1855 ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของอาณาจักรอยุธยา เมื่อ จุลศักราช 712 ปีขาล โทศก วันศุกร์ เดือนห้า ขึ้นหกค่ำ เวลา 3 นาฬิกา 9 บาท (ตรงกับ พ.ศ. 1893) มีพระนามเต็มว่า สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุนทรบรมบพิตร พระเจ้าอยู่หัว และเสด็จสวรรคต เมื่อ ปีระกา เอกศก จุลศักราช 731 (ตรงกับ พ.ศ. 1912) ครองราชสมบัติ 20 ปี ผู้สืบราชพระราชบัลลังก์ต่อคือ สมเด็จพระราเมศวร เนื้อหา [ซ่อน] 1 พระนาม 2 ที่มาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 3 พระราชกรณียกิจ 3.1 การสงครามกับเขมร 3.2 ตรากฎหมาย 3.3 การศาสนา 4 พระโอรส 5 อ้างอิง 6 ดูเพิ่ม [แก้]พระนาม สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุนทรบรมบพิตร (พระนามในพระราชพิธีขึ้นครองราชย์) สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (หลังจากขึ้นครองราชย์) พระยาอู่ทอง (ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์) สมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสินทร บรมมหาจักรพรรดิศรราชาธิราช (ในโองการแช่งน้ำ) สมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสุนทรบรมจักรพัตราธิราช (ในกฎหมายลักษณะอาญาราษฎร์) สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุรินทร บรมจักรพรรดิศร บวรมหาธรรมิกราชาธิราช (ในกฎหมายลักษณะอาญาหลวง) [แก้]ที่มาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 แนวความคิดที่ 1 พระเจ้าอู่ทองมาจากอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นแนวความคิดของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่ในปัจจุบันแนวความคิดนี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้วเนื่องจากการสำรวจหลักฐานทางโบราณคดีของ อ.มานิต วัลลิโภดม ที่เมืองอู่ทองแล้วพบว่า เป็นศิลปกรรมสมัยทวารวดีตอนปลาย ราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ทั้งสิ้น แล้วประมาณอายุเมืองนี้ว่าต้องร้างไปก่อนสมัยสมเด็จพระรามาธิบดี ผู้สร้างพระนครศรีอยุธยาราว 200 ปี ศาสตราจารย์ชอง บวสเซอลิเย่ แห่งมหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศสมาร่วมขุดค้นทางโบราณคดีที่เมืองอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2511 สรุปว่าเมืองอู่ทองโบราณนี้ร้างไปแล้วเป็นเวลาถึง 300 ปีก่อนยุคของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 แนวความคิดที่ 2 สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มผู้ปกครองทางเหนือ ในตำนานสิงหนวัติกล่าวว่า พระเจ้าอู่ทองสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าพรหมกุมาร มีต้นวงศ์อยู่ที่เมืองเชียงแสนหรือแคว้นโยนกนคร ต่อมาพระเจ้าพรหมได้อพยพมาสร้างเมืองที่เชียงรายหรือเวียงไชยปราการ กษัตริย์ที่เวียงไชยปราการที่ปกครองสืบต่อมาถูกเมืองสุธรรมวดีรุกราน จึงอพยพอยู่แถบบริเวณเมืองไตรตรึงส์สืบต่ออายุมาหลายชั่วคน จนถึงพระเจ้าอู่ทองหรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ที่ได้สถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แนวความคิดที่ 3 แนวความคิดที่ว่าพระเจ้าอู่ทองเป็นชาวจีน เป็นเพียงการอ้างอิงจากพงศาวดารฉบับวันวลิต อีกทั้งก็ไม่มีหลักฐานทางโบราณคดีมาสนับสนุน ข้อสันนิษฐานนี้จึงไม่มีน้ำหนักมากพอเช่นกัน แนวความคิดที่ 4 พระเจ้าอู่ทองมาจากเมืองเพชรบุรี(พริบพรี) ที่กล่าวถึงในจดหมายเหตุลาลูแบร์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ รวมถึงยังมีตำนานที่กล่าวอ้างอิงถึงอยู่บ้าง โดยกล่าวว่า สมเด็จพระบรมราชาสถาปนาพระพุทธไตรรัตนนายกได้ 1 ปีก็เสด็จออกผนวช แล้วสถาปนาเจ้าชายวรเชษฐ์ ให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ครั้นลาสิกขาแล้ว ก็โปรดให้เจ้าชายวรเชษฐ์ไปครองเมืองเพชรบุรี ซึ่งตำนานระบุว่าต่อมาคือสมเด็จพระรามาธบดีที่ 1 แนวความคิดที่ 5 พระเจ้าอู่ทองอยู่ที่บริเวณอยุธยานี้เดิมอยู่แล้ว เดิมเป็นเจ้าเมืองอโยธยา เมื่อมีโรคระบาดดังกล่าวก็ได้เสด็จมาสร้างเมืองใหม่ที่บริเวณที่เป็นกรุงศรีอยุธยาในปัจจุบัน แนวความคิดที่ 6 พระเจ้าอู่ทองสืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองลพบุรี โดยอ้างหลักฐานทางลายลักษณ์อักษรจากชินกาลมาลีปกรณ์ ที่กล่าวถึงกษัตริย์จากเมืองอโยธยปุระเสด็จมาจากเมืองกัมโพชหรือลพบุรีในปัจจุบันมายึดเมืองชัยนาท ("ชัยนาท" เดิมคือชื่อของเมืองพิษณุโลกฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน ภายหลังสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถมีพระบรมราชการโองการให้ย้ายชื่อดังกล่าวมาเป็นนามเมืองปากแพรกหรือเมืองชัยนามในปัจจุบันแทน) หรือเมืองพิษณุโลกในปัจจุบัน แล้วตั้งขุนนางชื่อวัฏเดชหรือขุนหลวงพะงั่วครองเมืองสุพรรณภูมิ ญาติของวัฏเดชได้อภิเษกกับพระเจ้าอู่ทองแล้วพระองค์ก็ได้เสด็จกลับไปที่เมืองอโยธยปุระ แนวความคิดที่ ๗ อยพหนีการกบฎของทาสชาวเขมรมาจากนครวัด โดยหัวหน้าทาสที่ก่อการกบฎมีนามว่า แตงหวาน (ตระซก ประแอม) ซึ่งพงศาวดารเขมรฉบับแรกสุด (ที่ยังไม่มีอิทธิพลของฝรั่งเศส) ก็อ้างว่าตระซกประเอมนี้คือบรรพบุรุษต้นกำเนิดของชาวเขมร การที่ชินกาลมาลีปกรณ์แห่งล้านนาบันทึกว่าพระเจ้าอู่ทองมาจากแคว้นกัมโพช ก็ตรงกันว่า แม้อพยพมาอยู่อยุธยาก็ยังคงเป็นกษัตริย์ของกัมโพช (นครวัด) ดังเดิม ตามหลักฐานและโบราณคดี ทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ในแนวคิดที่ 4 5 และ 6 สามารถผนวกรวมกันได้ กล่าวคือ เมื่อพิจารณาตำนานทั้งหลายแล้ว เจ้าชายวรเชษฐ์ ทรงเป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมราชา กษัตริย์แห่งอาณาจักรละโว้ (แนวความคิดที่ 6) ต่อมาพระราชชนกโปรดให้ไปครองเมืองพริบพรี (แนวความคิดที่ 4) และหลังจากพระราชชนกเสด็จสวรรคตแล้ว ทรงกลับมาครองเมืองอโยธยา (แนวความคิดที่ 5) จากนั้นจึงเกิดโรคระบาด จึงทรงย้ายที่ตั้งเมืองมายังตำแหน่งปัจจุบัน[1] [2] [แก้]พระราชกรณียกิจ [แก้]การสงครามกับเขมร ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระองค์ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับแว่นแคว้นต่างๆมากมาย แม้กระทั่ง ขอม ซึ่งก็เป็นมาด้วยดีจนกระทั่งกษัตริย์ขอมทรงสวรรคต พระราชโอรสนาม พระบรมลำพงศ์ ทรงขึ้นครองราชย์ ซึ่งพระบรมลำพงศ์ก็แปรพักตร์ไม่เป็นไมตรีดังแต่ก่อน สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 จึงมีบัญชาให้ สมเด็จพระราเมศวร ยกทัพไปตีกัมพูชา และให้สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือ ขุนหลวงพะงั่ว ทรงยกทัพไปช่วย จึงสามารถตีเมืองนครธมแตกได้ พระบรมลำพงศ์ทรงสวรรคตในศึกครั้งนี้ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 จึงแต่งตั้ง ปาสัต พระราชโอรสของพระบรมลำพงศ์เป็นกษัตริย์ขอม [แก้]ตรากฎหมาย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงประกาศใช้กฎหมายถึง 10 ฉบับ ในรัชสมัยของพระองค์ ได้แก่ พระราชบัญญัติลักษณะพยาน พระราชบัญญัติลักษณะอาญาหลวง พระราชบัญญัติลักษณะรับฟ้อง พระราชบัญญัติลักษณะลักพา พระราชบัญญัติลักษณะอาญาราษฎร์ พระราชบัญญัติลักษณ์โจร พระราชบัญญัติเบ็ดเสร็จว่าด้วยที่ดิน พระราชบัญญัติลักษณะผัวเมีย พระราชบัญญัติลักษณะโจรว่าด้วยโจร ในประวัติศาสตร์บางแหล่งบอกว่ามีมากกว่านี้ แต่เท่าที่หาหลักฐานได้ มีเพียงเท่านี้เท่านั้น [แก้]การศาสนา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างวัดต่างๆ เช่น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดพุทไธสวรรย์ เมื่อปี พ.ศ. 1876 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดป่าแก้ว เมื่อปี พ.ศ. 1900 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดพระราม เมื่อปี พ.ศ. 1912 [แก้]พระโอรส พระราเมศวร พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา [แก้]อ้างอิง จิตร ภูมิศักดิ์. ข้อคิดใหม่ในประวัติศาสตร์ไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา. ดวงกมล : กรุงเทพฯ, 2524. ^ พระเจ้าอู่ทองมาจากนครวัดในเขมร (หลักฐานเพิ่มเติมครั้งที่ ๓) จากผู้จัดการออนไลน์ ^ อณาจักรอยุธยา คือ กลุ่มคนกลุ่มไหนเป็นผู้ก่อตั้งอณาจักร จากพันทิปดอตคอม [แก้]ดูเพิ่ม ลำดับพระมหากษัตริย์ไทย สมเด็จพระรามาธิบดี สมัยก่อนหน้า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สมัยถัดไป ไม่ทราบ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อาณาจักรละโว้ (ราชวงศ์สายน้ำผึ้ง (พ.ศ. 1868 - ไม่ทราบปี)) — พระอินทราชา กษัตริย์แห่งแคว้นพริบพรี(เพชรบุรี) (ราชวงศ์สายน้ำผึ้ง (ไม่ทราบปี - 1887)) เจ้าสาม พระเจ้าบรมราชา ราชวงศ์สายน้ำผึ้ง (พ.ศ. 1853 - 1887) กษัตริย์แห่งอาณาจักรละโว้ (ราชวงศ์สายน้ำผึ้ง (พ.ศ. 1887 - 1893)) — - ผู้รั้งเมืองอโยธยา (ราชวงศ์สายน้ำผึ้ง (พ.ศ. 1887 - 1893)) - — พระมหากษัตริย์ แห่งอาณาจักรอยุธยา (ราชวงศ์อู่ทอง (พ.ศ. 1893 - 1912)) สมเด็จพระราเมศวร ราชวงศ์อู่ทอง (พ.ศ. 1912 - 1913) [แสดง] ด • พ • ก รายพระนามพระมหากษัตริย์ไทย [แสดง] ด • พ • ก ลำดับครองราชย์ของกษัตริย์แห่งอาณาจักรละโว้ เรียงตามปีพุทธศักราช [แสดง] ด • พ • ก ลำดับครองราชย์ของพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา เรียงตามปีพุทธศักราช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น